ผงปรุงรสอาหารคลีน แคร์ช้อยส์สูตรไม่เติมเกลือและน้ำตาล รายแรกของประเทศ
แคร์ช้อยส์ สูตรที่พัฒนาสำหรับผู้ที่ต้องควบคุมโซเดียม
- เหมาะสำหรับปรุงอาหารผู้ป่วยโรคไต ความดัน เบาหวาน
- ไม่ใส่เกลือโพแทสเซียม ไม่เป็นอันตรายต่อไต
- ทำจากวัตถุดิบธรรมชาติ เพิ่มรสชาติให้อาหารอร่อย กลมกล่อม
- ปรุงอาหารได้ทุกเมนู ผัด ต้มจืด ซุป หมักเนื้อสัตว์ ทอด
- หอมกลิ่นเครื่องเทศแบบไทยๆ
- ไม่ใส่น้ำตาลทราย
อาหารสำหรับผู้ป่วยโรคไต กินอย่างไร?
ผู้ป่วยโรคไตควรเลี่ยงเครื่องปรุงโซเดียมต่ำที่ถูกทดแทนด้วยเกลือโพแทสเซียมคลอไรด์ โพแทสเซียมคลอไรด์ เป็นเกลือให้รสเค็มเหมือนกัน แต่ไม่เหมาะกับผู้ป่วยโรคไต เพราะไตจะทำงานหนักในการกำจัดออกจากร่างกาย
แคร์ช้อยส์จึงคิดค้น และพัฒนาผงปรุงรสสูตรที่ผู้ป่วยโรคไตสามารถทานได้ ผลิตจากธรรมชาติ 100 % ไม่ใส่สารเคมีปรุงแต่ง กลิ่น สี รส ไม่ใส่ผงชูรส ไม่ใส่สารกันบูด สามารถปรุงอาหารได้ทุกเมนู เปลี่ยนรสจืดชืดให้มีรสชาติ ช่วยให้ผู้ป่วยโรคไตทานอาหารได้อร่อย และไม่ต้องกังวลเรื่องปริมาณของโซเดียม
เครื่องปรุงอาหารสำหรับผู้ป่วยโรคไต
ผู้ป่วยโรคไต ที่กำลังมองหาเครื่องปรุงที่อร่อย ถูกปาก ใช้ปรุงอาหารเมนูโรคไตได้ทุกเมนู หมดความกังวลเรื่องปริมาณโซเดียม แคร์ช้อยส์ขอแนะนำ ผงปรุงรสอาหารคลีนสูตรลดโซเดียม และสูตรไม่เติมเกลือและน้ำตาล (รายแรกของประเทศ) มีหลายสูตรให้คุณเลือกได้ตามชอบ ทุกสูตรไม่มีส่วนผสมของเกลือโพแทสเซียม จึงสามารถใช้ได้กับผู้ป่วยโรคไตทุกระยะ หรือผู้ที่ต้องการควบคุมปริมาณโซเดียมทุกคน
แคร์ช้อยส์ใส่ใจอย่างยิ่งในเรื่องการคัดสรรวัตถุดิบที่ปลอดภัย ทุกสูตรเราผลิตจากผักปลอดสารและ เครื่องเทศชั้นดี ผลิตสดใหม่ทุกวัน เพื่อให้ได้ผงปรุงรสที่รสชาติอร่อย ถูกปาก เปลี่ยนรสจืดชืดให้มีรสชาติ ให้ทุกเมนูสำหรับผู้ปวยโรไต อร่อย ไม่จืดชืด
ไม่ว่าคุณจะสั่งซื้อแคร์ช้อยส์ให้กับตัวคุณเอง หรือให้กับคนในครอบครัวที่รักและห่วงใย คุณสามารถสบายใจได้ว่า คุณได้มอบของขวัญที่ดีที่สุดและปลอดภัยที่สุดต่อสุขภาพ เราเชื่อว่าถ้าผู้ป่วยโรคไตมีความสุขกับการรับประทานอาหารที่มีรสชาติถูกปาก และปลอดภัย จะส่งผลที่ดีต่อสุขภาพกายและใจไปพร้อมๆ กัน
ระยะของโรคไตเรื้อรัง
ไตมีหน้าที่ขับน้ำและของเสียออกจากร่างกายในรูปแบบปัสสะวะ ช่วยปรับสมดุลของเกลือแร่ในร่างกาย และทำหน้าที่ปรับฮอร์โมนในร่างกาย รวมถึงความดันโลหิต โดยปกติแล้วจะมีการวัดค่าการทำงานของไต หรืออัตราการกรองของเสีย เรียกว่า GFR แบ่งออกเป็น 5 ระยะ
ระยะที่ 1 และ 2 ค่า GFR มากกว่า 80 อาการเริ่มต้น
ระยะที่ 3 ค่า GFR ต่ำกว่า 60 เป็นระยะที่ไตเริ่มมีปัญหา
ระยะที่ 4 ค่า GFR ต่ำกว่า 30 เป็นระยะที่ไตเริ่มทำงานลดลงมาก
ระยะที่ 5 ค่า GFR ต่ำกว่า 15 เป็นระยะภาวะไตวาย
ยิ่งค่าไตมีความเสื่อมมากขึ้น ยิ่งต้องมีการปรับวิธีการรับประทานอาหารตามระยะของไตที่มีความเสื่อมลงมากขึ้นตาม
การปรุงอาหารสำหรับผู้ป่วยโรคไต
การทำอาหารทานเองสำหรับผู้ป่วยโรคไตเป็นวิธีการที่ดีที่สุดในการควบคุมปริมาณสารอาหารให้เหมาะสมสำหรับไตในระยะต่าง ๆ ในกรณีที่ผู้ป่วยต้องจำกัดปริมาณโซเดียมต่ำมาก อาจส่งผลให้ผู้ป่วยรับประทานอาหารได้น้อยลง แนะนำให้ใช้รสเปรี้ยว เผ็ด นำ ใช้เครื่องเทศ และสมุนไพรในการปรุงอาหาร เช่น ตะไคร้ ใบมะกรูด กระเทียม ใบโหระพา ข่า ใบแมงรัก หอมแดง มะนาว เป็นตัวแต่งกลิ่นอาหารเพื่อให้อาหารมีกลิ่น และรสชาติที่น่ารับประทานมากขึ้น
เมนูโรคไตทำง่ายๆ ที่มีรสเปรี้ยว เผ็ดนำ เช่น แกงส้ม ต้มยำ ต้มส้ม ปลานึ่งมะนาวสมุนไพร ยำ เป็นต้น
หลีกเลี่ยง : การใช้เครื่องปรุงรสที่มีโซเดียมสูง ทั้งที่มีรสเค็มและไม่เค็ม เช่น ผงชูรส ผงฟู เป็นต้น
โรคไต เกิดจากสาเหตุอะไร?
สาเหตุของโรคไตเกิดจากอาหารที่ทาน หรือการกินอาหารนอกบ้านเป็นประจำ เช่นหมูหมักชาบู หมูกระทะ ก๊วยเตี๋ยว อาหารตามสั่ง หรือฟาสต์ฟู้ด และพฤติกรรมการกินเช่นชอบซดน้ำซุป ชอบกินอาหารรสจัด ใช้เครื่องปรุงหลายชนิดในการปรุงอาหาร รวมไปถึงการกินอาหารกึ่งสำเร็จรูปที่มาพร้อมกับเครื่องปรุง เช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป อาหารแช่แข็ง ขนมขบเคี้ยว แต่ทั้งนี้โรคไตก็เกิดขึ้นได้จากพันธุกรรม
โทษจากการกินอาหารโซเดียมสูง
การทานรสเค็ม หรืออาหารที่มีโซเดียมสูงเป็นประจำมีความเสี่ยงที่จะป่วยด้วยโรคไตและโรคติดต่อไม่เรื้อรัง (NCDs) อื่นๆ ตามมาเช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคไตเรื้อรัง ตัวบวม
บทความเกี่ยวกับอาหารโรคไต
วิธีเลือกอาหาร Low Potassium สำหรับผู้ป่วยโรคไต https://bit.ly/3M65F35
อาหารสุขภาพที่ผู้ป่วยโรคไตควรระวัง https://bit.ly/3ruCZcd
อาหารแนะนำสำหรับผู้ป่วยโรคไต https://bit.ly/3JLQdr4
เครื่องปรุงลดโซเดียมสำหรับผู้ป่วยโรคไต https://bit.ly/3EfVWEq
5 อาหารโซเดียมสูง https://bit.ly/38GkJG3
เมนูอาหารโรคไต
- พริกแกงส้ม 1 ช้อนโต๊ะ
- ปลาช่อน
- ผักกาดขาว 4-5 ก้าน
- ถั่วฝักยาว 2 ฝัก ต้มแล้วเทน้ำทิ้ง 1 น้ำ
- น้ำมะขามเปียก
- น้ำตาลปี๊บ
- แคร์ช้อยส์สูตรไม่เติมเกลือและน้ำตาล
- ละลายพริกแกงส้มในน้ำเปล่าใส่หม้อ ตั้งไฟจนเดือด
- ใส่น้ำมะขามเปียก น้ำตาลปี๊บ
- พอเดือด นำปลาลงไปต้ม ห้ามค้น
- ใส่ผักลงไป
- ปรุงด้วยผงปรุงรสแคร์ช้อยส์สูตรไม่เติมเกลือและน้ำตาล 1-2 ช้อนชา
- เส้นไข่ขาว
- ไข่ไก่ ประมาณ 3 ฟอง (ใช้เฉพาะไข่ขาว)
- เนื้อไก่
- แครอทหั่นเต๋า
- กระเทียมสับ
- น้ำมัน
- พริกไทย
- แคร์ช้อยส์สูตรแฮปปี้มีล
- ใส่น้ำมันในกระทะ ตามด้วยกระเทียม ไก่ ผัดให้เข้ากัน พอไก่เริ่มแห้ง ตักพักไว้
- ใส่น้ำมันลงกระทะเล็กน้อย แล้วใส่ไข่ขาวลงไปเจียว พอสุกใช้ทัพพีตัดเป็นเส้นๆ แล้วนำไก่ที่ผัดไว้ลงไปคลุกผัดไปมา
- ใส่แครอทลงไปผัด
- ปรุงด้วยผงปรุงรสแคร์ช้อยส์สูตรแฮปปี้มีล 1-2 ช้อนชา
- ตักใส่จาน โรยด้วยพริกไทย
- แตงกวา
- กระเทียมสับ
- ไข่ขาว
- น้ำสะอาด
- น้ำมัน
- ผงปรุงรสสูตรไม่เติมเกลือและน้ำตาล
- ตั้งกระทะใส่น้ำมัน ตามด้วยกระะทียมเจียวจนเหลือง ใส่แตงกวาลงไปผัด เติมน้ำนิดหน่อย
- ปรุงด้วยผงปรุงรสแคร์ช้อยส์สูตรไม่เติมเกลือและน้ำตาล 1-2 ช้อนชา
- เปิดไฟแรง ตอกไข่ลงไป ค่อยๆ ขยี้ไข่ให้กระจาย ผัดจนไข่สุกทั่วดี ปิดแก๊ส ตักใส่จานพร้อมเสิร์ฟ
ผงปรุงรสอาหารคลีน ลดโซเดียม
สูตรไม่เติมเกลือและน้ำตาล น้ำหนัก 105 กรัม ราคา 180 บาท
- ไม่ใส่เกลือและน้ำตาล
- ลดโซเดียมกว่า 99%
- ใช้หญ้าหวานแทนน้ำตาล ไม่กระตุ้นอินซูลิน
- อร่อยกลมกล่อมจากหอมหัวใหญ่ เห็ดหอม และปลาญี่ปุ่นที่เพิ่มรสอูมามิ หอม น่าทาน
- เข้มข้นด้วยรากผักชี พริกไทย ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกัน
*หญ้าหวาน สารทดแทนความหวานตามธรรมชาติ ไม่มีแคลอรี่ ไม่กระตุ้นอินซูลิน ปลอดภัยต่อผู้ป่วยเบาหวานและผู้ต้องการควบคุมน้ำตาลและน้ำหนัก*
สูตรแฮปปี้มีล น้ำหนัก 90 กรัม ราคา 180 บาท
- ไม่ใส่เกลือและน้ำตาล
- ลดโซเดียมกว่า 99%
- หวานธรรมชาติจากหล่อฮังก๊วย ไม่กระตุ้นอินซูลิน
- อร่อยกลมกล่อมจากหอมหัวใหญ่ เห็ดหอม
- หอมเครื่องเทศ รากผักชี กระเทียม พริกไทย ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกัน
*หล่อฮังก๊วย : สารให้ความหวานแทนน้ำตาล ไม่มีผลต่อระดับน้ำตาลในเลือด ให้ความหวานละมุน จึงปลอดภัยต่อผู้ผู้สูงอายุและผู้ต้องการควบคุมระดับน้ำตาลช่วยให้เมนูโรคไตอร่อยไม่จืดชืด*
เครื่องปรุงอาหารคลีนเพื่อสุขภาพ
กระเทียมผง 80 กรัม ราคา 145 บาท
- ช่วยป้องกันโรคไข้หวัด
- ช่วยต้านความดันโลหิตสูง และคอเลสเตอรอล
- ลดอาการท้องอืด
- ช่วยลดอาการปวดฟันด้วยวิธีธรรมชาติ
- ช่วยปกป้องร่างกายจากแบคทีเรีย
สามเกลอคู่ครัวไทย 70 กรัม ราคา 149 บาท
- ช่วยป้องกันหลอดเลือดหัวใจอุดตัน
- ลดไขมันในเส้นเลือด
- บำรุงหัวใจ ลดความดันโลหิตสูง
สามเกลอซอสหมักย่าง 70 กรัม ราคา 89 บาท
- ช่วยป้องกันหลอดเลือดหัวใจอุดตัน
- ลดไขมันในเส้นเลือด
- บำรุงหัวใจ ลดความดันโลหิตสูง
5 เทคนิคกินลดโซเดียม
ปริมาณโซเดียมในเครื่องปรุง
เปรียบเทียบปริมาณโซเดียมระหว่างเครื่องปรุงรสทั่วไป กับ แคร์ช้อยส์สูตรลดโซเดียม
ปริมาณโซเดียมของผงปรุงรสแคร์ช้อยส์แต่ละสูตรแตกต่างกัน แต่ทุกสูตรให้รสชาติอร่อย ปรุงได้ทุกเมนู ผู้บริโภคสามารถเลือกสูตรที่เหมาะสมต่อความต้องการโซเดียมของร่างกาย
วิธีการเปรียบเทียบเช่น ปรุงอาหารด้วยผงปรุงรสทั่วไป ปริมาณโซเดียมต่อ 1 ช้อนชา เท่ากับ 900 มก. เทียบกับผงปรุงรสแคร์ช้อยส์สูตรไม่เติมเกลือและน้ำตาล 1 ช้อนชา มีปริมาณโซเดียม เท่ากับ 10 มก. ซึ่งโซเดียมที่ได้เกิดจากวัตถุดิบธรรมชาติ
ปริมาณโซเดียม ที่ร่างกายต้องการต่อวัน
องค์การอนามัยโลกกำหนดปริมาณโซเดียมที่บริโภคเพียงพอต่อวันไว้ไม่เกิน 2,000 มิลลิกรัมต่อวัน การที่ร่างกายได้รับมากหรือน้อยเกินไปจะส่งผลเสียต่อร่างกายทั้งสิ้น
ในมาม่า 1 ซอง มีปริมาณโซเดียม 1,270 ซึ่งก็เกินครึ่งหนึ่งของปริมาณโซเดียมที่ควรได้รับต่อวัน ดังนั้นเราควรเลือกรับประทานและเรียนรู้การอ่านฉลากโภชนาการ
ปริมาณโซเดียมในอาหารประเภทต่างๆ
ในอาหารที่เรากินเป็นประจำล้วนมีโซเดียม ซึ่งมีทั้งโซเดียมที่มีอยู่ในธรรมชาติ เช่นในไข่ไก่ เนื้อสัตว์ ผัก เป็นต้น รวมไปถึงโซเดียมที่ใส่เพิ่มเข้าไป เช่นจากเครื่องปรุงรสต่างๆ ดังนั้นเราควรต้องใส่ใจปริมาณโซเดียมที่ร่างกายได้รับในแต่ละวัน เพื่อไม่ให้ไตทำงานขับของเสียมากเกินไป
วิธีอ่านฉลากโภชนาการ
ฉลากโภชนาการ คือ ฉลากอาหารที่แสดงข้อมูลโภชนาการ หรือ ““Nutrition Information” อยู่ในกรอบสี่เหลี่ยม จะช่วยให้ทราบถึงชนิดและปริมาณสารอาหาร ต่อ 1 หน่วยบริโภค
ข้อมูลสำหรับผู้ป่วยโรคไต หรือผู้ที่ต้องการควบคุมปริมาณโซเดียม สิ่งที่ต้องพิจารณามีดังนี้
- ดูปริมาณหนึ่งหน่วยบริโภค โดยจะมีคำแนะนำปริมาณการใช้ต่อ 1 ครั้ง เช่น 1 ช้อนชา หรือ 1 ช้อนโต๊ะ เป็นต้น
- ดูปริมาณโซเดียม/ 1 หน่วยบริโภค โดยจะระบุเป็นมิลลิกรัม เช่น 1 ช้อนชา มีปริมาณโซเดียม 100 มิลลิกรัม เป็นต้น