ผงปรุงรส
รายละเอียดสินค้า
- เครื่องปรุงลดโซเดียม/โรคไต
- เครื่องปรุงเพื่อสุขภาพ
ในแต่ละวันร่างกายต้องการโซเดียม 1,500 มก./วัน หรือเทียบเท่ากับน้ำปลา 4 ช้อนชา
*กรมอนามัยโลกแนะนำให้บริโภคโซเดียมไม่เกิน 2,000 มก./วัน*
ถ้ากินโซเดียมมากเกินความจำเป็นจะส่งผลให้ความดันโลหิตสูง ซึ่งเป็นตัวเร่งให้ไตเสื่อมเร็วขึ้น
เทคนิคที่ 1. ปรุงอาหารทานเองที่บ้าน เพื่อสามารถควบคุมการปริมาณโซเดียมที่มีอยู่ในเครื่องปรุงต่างๆ
ในขั้นตอนการทำอาหารอย่าปรุงไปชิมไป ควรปรุงเค็มในขั้นตอนสุดท้าย ใช้รสเปรี้ยว เผ็ด มาช่วยเพิ่มรสชาติอาหาร
เทคนิคที่ 2. ลดการกินอาหารแปรรูป เช่นไส้กรอก แฮม แหนม หมูยอ เนื่องจากมีปริมาณโซเดียมมาก 7-10 เท่า
อาหารแปรรูปที่มีปริมาณโซเดียมสูงเช่น ปลากระป๋อง อาหารแช่แข็ง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ขนมขบเคี้ยว ควรดูปริมาณโซเดียมที่ฉลากโภชนาการ
ควรทานอาหารที่ผ่านการปรุงน้อย โดยใช้วิธีนึ่ง ย่าง เน้นการทานผักสด
เทคนิคที่ 3. ลดการกินน้ำแกง น้ำซุป น้ำผัด ที่มีรสเค็ม
เปลี่ยนวิธีการรับประทานเช่น
- ก๋วยเตี๋ยวน้ำ : เปลี่ยนมาใช้ตะเกียบแทนช้อน
- ข้าวราดแกง : เปลี่ยนจากการตักแกงราด มาเป็นแยกใส่ถ้วย
- ใช้ส้อม ตะเกียบ เป็นอุปกรณ์ในการตักหรือคีบอาหารแทนการใช้ช้อน
ปริมาณโซเดียมในอาหาร ต่อการกินน้ำซุป น้ำแกง น้ำผัด 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำแกง 1,500 มก.
- น้ำก๋วยเตี๋ยว 1,500 มก.
- น้ำผัด 400 มก.
- น้ำส้มตำ 2,000 มก.
เทคนิคที่ 4. ดูฉลากโภชนาการว่ามีปริมาณโซเดียมต่อ 1 หน่วยบริโภคกี่มิลลิกรัม โซเดียมที่ได้จากเครื่องปรุงส่วนใหญ่มาจากผงชูรส เกลือ รวมถึงสารที่ให้ความเค็มบางประเภทสำหรับผู้ป่วยโรคไต ควรดูปริมาณโพแทสเซียมประกอบ
ตัวอย่างการดูฉลากโภชนาการเครื่องปรุงที่นิยมใช้ในครัว ผู้ป่วยโรคไตจึงต้องระวังและควบคุมปริมาณการใช้เพื่อไม่ให้ได้รับปริมาณโซเดียมเกินที่ต้องการ
เทคนิคที่ 5. ลดการทานอาหารรสจัด และลดการใช้เครื่องปรุง ยิ่งปรุงรสจัดก็จะทำให้กินเค็มเพิ่มขึ้นตามไปด้วย และไม่ควรใช้เครื่องปรุงจำนวนมาก เช่น ใช้ทั้งผงปรุงรส ซีอิ้วขาว น้ำปลา ในเวลาเดียวกัน
