เมื่อคิดจะลดน้ำหนัก หลายคนอาจจะมีวิธีการลดน้ำหนักที่แตกต่างกัน เช่น กิน อาหาร น้อยลง งดอาหารมื้อเช้า งดอาหารมื้อเย็น จำกัดเวลาการกิน หรือการอด อาหาร ไปเลยก็มี ซึ่งเหล่านี้เป็นความเชื่อผิด ๆ ของการลดน้ำหนัก แทนที่จะผอมลงกลับทำให้เกิดโยโย่เอฟเฟค หรือ ภาวะขาดความสมดุลของร่างกาย ไม่เพียงเกิดขึ้นจากการกินยาลดความอ้วนเท่านั้นนะคะ แต่ยังเกิดจากการพยายามควบคุม อาหาร และเปลี่ยนชนิด อาหาร ได้ด้วย แต่วันนี้แคร์ช้อยส์มีเทคนิคการลดน้ำหนักแบบง่าย ปลอดภัย แถมไม่ต้องอดอาหารมาฝากสาว ๆ กันค่ะ
เพิ่ม 3 ลด 2
การควบคุม อาหาร ที่ดี คือ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินและเลือกกิน อาหาร ที่มีประโยชน์มากขึ้น โดยเพิ่ม 3 สิ่งที่ต้องกิน ได้แก่ การกินโปรตีน วิตามิน เกลือแร่ และลด 2 สิ่งให้น้อยลง ได้แก่ คาร์โบไฮเดรตและไขมัน
3 สิ่งต้องกินเพิ่ม
โปรตีน ตัวช่วยคงมวลกล้ามเนื้อของร่างกาย เราสามารถคำนวณปริมาณโปรตีนที่ร่างกายต้องการต่อน้ำหนักตัวเราได้โดยอัตราส่วน โปรตีนต่อน้ำหนักตัวดังรูป
โดยต้องเลือกโปรตีนในการกินที่เหมาะที่ดีต่อร่างกาย ได้แก่ อกไก่ เนื้อหมู ปลาแซลมอน ชีส ไข่ไก่ และถั่วต่าง ๆ โปรตีนที่ควรหลีกเลี่ยง ได้แก่ เนื้อแดง ไส้กรอก และอาหารแปรรูป นอกจากนี้วิธีปรุงอาหารควรใช้วิธี นึ่ง ต้ม ปิ้ง ย่าง หลีกเลี่ยงการทอดและการผัด นะจ๊ะ
วิตามินและเกลือแร่ มีส่วนให้ระบบเผาผลาญของร่างกายดีขึ้น โดยลือกกินผักหลากสีและกินผลไม้ไม่มากจนเกินไป เพราะในผลไม้บางชนิดมีน้ำตาลสูง หรือ เลือกกินผลไม้น้ำตาลน้อย เช่น สตรอเบอรี่ กีวี่ แตงโม แก้งมังกร มะละกอ แอปเปิ้ล แคนตาลูป ชมพู่และฝรั่ง เป็นต้น
2 สิ่งต้องกินน้อยลง
คาร์โบไฮเดรต
ร่างกายของเราใช้คาร์โบไฮเดรตเป็นเชื้อเพลิงซึ่งมาจากแป้งและน้ำตาล เป็นแหล่งพลังงานของร่างกาย ส่วนหนึ่งถูกเปลี่ยนเป็นกลูโคส หรือ น้ำตาลในเลือด ลำเลียงไปยังเซลล์ต่าง ๆ บางส่วนถูกใช้เป็นพลังงานของร่างกาย และส่วนสุดท้ายถูกแปรสภาพเป็นไขมันเพื่อเก็บไว้เป็นพลังงานสำรอง
ซึ่งในกระบวนการนี้จะเห็นได้ว่ามีน้ำตาลเกิดขึ้นในร่างกาย เพราะฉะนั้นเราจึงควรลดการกินแป้ง เพื่อควบคุมปริมาณน้ำตาล โดยปริมาณน้ำตาลที่แนะนำต่อวัน คือ หญิง 6 ช้อนชา หรือ 24 กรัม ชาย 9 ช้อนชา หรือ 36 กรัม
ในส่วนนี้เราจึงควรระมัดระวังในเรื่องของน้ำตาลที่แฝงมาจากอาหาร เช่น เบเกอรี่ เครื่องดื่ม น้ำอัดลม น้ำหวาน โยเกิร์ต ผลไม้น้ำตาลสูง และน้ำผลไม้ เป็นต้น
ถ้าร่างกายขาดน้ำตาลจากการงดแป้งไปเลย จะทำให้ร่างกายสลายกล้ามเนื้อเปลี่ยนเป็นน้ำตาลไปเลี้ยงสมอง น้ำหนักลดลงเร็ว เพราะมวลกล้ามเนื้อหายไม่ใช่ไขมัน และยังทำให้สมองตื้อ คิดอะไรไม่ออกและไม่มีเรี่ยวแรง เป็นต้น
ถ้าร่างกายได้รับน้ำตาลมากเกินไป จะทำให้ร่างกายกักเก็บน้ำตาลไว้ในรูปของไขมันสะสมในร่างกายนั่นเอง
ไขมัน
ส่วนสุดท้ายที่แปรสภาพจากคาร์โบไฮเดรต กลายเป็นน้ำตาลกลูโคส ไกลโคเจนและส่วนที่เหลือเก็บจะถูกแปรเป็นพลังงานสำรอง เรียกว่า ไขมัน นั่นเอง ซึ่งไขมันเหล่านี้จะค่อย ๆ สะสมเพิ่มพูนที่ใต้ชั้นผิวหนังเราและตามอวัยวะต่าง ๆ และยิ่งกินแป้งเยอะในคราวเดียว ร่างกาจะไม่สามารถกักเก็บพลังงานได้ทันที ร่างกายจึงลดปริมาณน้ำตาล โดยจัดเก็บในรูปแบบของไขมัน แทรกตามใต้ชั้นผิวหนังในร่างกาย เช่น ท้อง เอว สะโพก ต้นขาส่วนบน หรือที่สาว ๆ เรียกว่า เซลลูไลต์ นั่นเองละค่ะ
เลือกกินแป้งอย่างไร ไม่ให้อ้วน
การลดน้ำหนักแบบ Low-Carb หรือการจำกัดปริมาณการกินแป้ง โดยเลือกกินแป้งดี ได้แก่ แป้งไม่ขัดสี ข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีท โฮลเกรน ซีเรียล พาสต้าโฮลวีท ธัญพืช ถั่ว ผักใบเขียว และเลี่ยงการกินแป้งไม่ดี ได้แก่ แป้งขัดสีทุกชนิด ข้าวขาว ขนมปังขาว แพนเค้ก ขนมเต้ก พาสต้าขัดสี วาฟเฟิล น้ำหวาน ลูกอม ขนมขบเคี้ยว น้ำอัดลม และนม เป็นต้น
ถ้ารู้สึกว่า การลดน้ำหนักแบบ Low-Carb ดูจะจำกัดการกินจนเกินไป ยังมีวิธีการกินแบบง่าย ๆ สามารถทำได้ทุกมื้อ นั่นก็คือ การจัดสัดส่วนจาน อาหารในแต่ละมื้อ โดยแบ่งจานข้าวออกเป็น ผักและผลไม้ ½ ส่วน โปรตีน ¼ ส่วน และ แป้งดี ¼ ส่วน ซึ่งการกินอาหารวิธีนี้ ร่างกายจะได้รับสารอาหารครบทั้ง 5 หมู่ เป็นอีกหนึ่งการลดน้ำหนัก โดยไม่ต้องลดอาหารนั่นเองละค่ะ
หากคุณกำลังต้องการลดน้ำหนัก นอกจากจะต้องควบคุมการกิน อาหารแล้ว เครื่องปรุงที่ใช้ปรุงอาหารที่มาจากธรรมชาติ ไม่มีผงชูรส ไม่มีโซเดียม ไม่มีน้ำตาล ไม่มีสารเคมีเจือปน ยังช่วยให้ทุกจานอาหารสุขภาพของคุณอร่อย แนะนำ แคร์ช้อยส์ ผงปรุงรสจากผัก 100% สูตรไม่เติมเกลือและน้ำตาลค่ะ อร่อย สบายใจ ไร้ผงชูรส จัดเลยค่ะ