การทานอาหารคลีน (Clean food) เป็นวิธีการทานอาหารที่เน้นอาหารที่มีประโยชน์จากธรรมชาติ ไม่เน้นปรุงแต่ง ไม่ใช้สารสังเคราะห์ สารเคมี ลดการทานอาหารที่ผ่านกรรมวิธีต่างๆ ซึ่งการทานอาหารที่ดี มีโภชนาการครบถ้วนแบบนี้จะทำให้สุขภาพโดยรวมของเราดีในระยะยาว และวิธีการทานคลีนก็เป็นวิธียอดฮิตสำหรับผู้เพิ่งเริ่มลดน้ำหนักด้วย
ผู้ที่เพิ่งเริ่มทานคลีนจะต้องเปลี่ยนวิธีการทานอาหารใหม่ให้คลีนขึ้น เช่น
- คาร์โบไฮเดรต จำพวกข้าว, ขนมปัง, เส้นพาสต้า จะเปลี่ยนเป็น ข้าวซ้อมมือ, ข้าวไม่ขัดสี, ขนมปังโฮลวีต, เส้นโฮลวีต
- โปรตีน เช่น แฮม, ไส้กรอก, ลูกชิ้น จะเปลี่ยนเป็น เนื้อหมู, เนื้อปลา, เนื้อไก่, อาหารทะเลที่ไม่ผ่านการปรุงแต่งสารเคมี
- ไขมัน เช่น มาการีน, น้ำมันปาล์มผ่านกรรมวิธี, เมนูเบเกอรี่ที่มีไขมันเทียม จะเปลี่ยนเป็นน้ำมันมะกอก, น้ำมันทานตะวัน, น้ำมันมะพร้าวหรือเบเกอรี่จากเนยสดแทน
- เครื่องดื่ม ไม่ว่าจะเป็นชา,กาแฟใส่ครีมเทียม, น้ำอัดลม จะเปลี่ยนเป็นชา,กาแฟใส่นมสด และทานน้ำเปล่าเป็นหลัก
การเปลี่ยนอาหารทุกอย่างรอบตัวที่คุ้นเคย เป็นอาหารที่ปรุงแต่งน้อย อาจจะกระทันหันและยากเกินไปสำหรับมือใหม่ จึงสามารถทำได้ยาก ทานได้ไม่ยั่งยืน จนต้องล้มเลิกความตั้งใจไป ทำให้การลดความอ้วนครั้งนี้ไม่สบผลสำเร็จ เคยมีงานศึกษาหนึ่งได้รายงานว่า ระหว่างการลดน้ำหนัก สมองของเราจะ sensitive และเครียดมาก และส่งผลให้สมองอยากอาหารไขมันสูง, น้ำตาลสูง ที่มีแคลอรี่สูง ซึ่งเป็นสาเหตุให้การแพลนลดน้ำหนักพัง
คลีนสายกลาง เป็นอีกวิธีการหนึ่งที่ไม่เข้มงวดกับการเลือกรับประทานอาหารคลีนมากเกินไป โดยการทานอาหารคลีนร่วมกับอาหารปกติ ทำให้เราคลีนขึ้นและยังคงความอร่อยด้วย ทำให้เราไม่โหยของอร่อยแคลอรี่สูง ทำให้การเริ่มต้นทานคลีนครั้งนี้ไม่เครียดมาก และมีโอกาสประสบผลสำเร็จมากกว่าทานคลีน 100% แต่ก็อาจจะต้องใจเย็น ใช้เวลาสักหน่อยกว่าจะเห็นผลชัดเจน
เมนูอะไรที่เรียกว่า ” คลีนสายกลาง “
เมนูหมูกรอบที่เรียกว่าต้องห้ามสำหรับคนลดน้ำหนัก การทานคลีนสายกลาง ก็ทำให้เรายังทานได้อยู่ แต่เพียงต้องเปลี่ยนวิธีการทำสุก โดยจากปกติใช้การทอดก็เปลี่ยนมาเป็นใช้หม้อทอดหรือฝาอบลมร้อนแทน แค่เปลี่ยนวิธีการทำสุก ก็ทำให้แคลอรี่ลดลงไปได้มากเลยทีเดียว (น้อยลงประมาณ 100 – 150 แคลอรี่)
ทานข้าวซ้อมมือผสมข้าวขาว ทำให้ทานข้าวได้ง่ายขึ้น เพราะถึงแม้เราจะยังทานข้าวซ้อมมือไม่ได้ 100% แต่การทานครึ่งนึงจากปกติ ก็ทำให้ร่างกายและลิ้นเราชินกับเนื้อสัมผัสและรสชาติ แถมยังได้ไฟเบอร์เพิ่มขึ้น ซึ่งจากปกติเราไม่เคยได้รับเลย
หรือนานๆที ก็ทานเบเกอรี่หรือน้ำหวานได้บ้าง แต่ต้องอย่าลืมว่าไม่ทานบ่อยเกินไป จากเดิมวันเว้นวัน ก็อาจเหลือเพียงสัปดาห์ละหนึ่งครั้ง หรือเมื่อไหร่ที่อยากหวานก็ลองหยิบผลไม้มาทานก่อน เพราะร่างกายเราอาจแค่ต้องการน้ำตาลจากผลไม้เล็กน้อยก็สดชื่นได้แล้ว
การทานคลีนสายกลางไปเรื่อยๆ จะทำให้เราเริ่มคุ้นเคยกับอาหารมีประโยชน์ และร่างกายเราจะเลือกทานอาหารคลีนได้มากขึ้นเองโดยอัตโนมัติ การทำอาหารและปรุงรสเอง จะทำให้การทานคลีนประสบผลสำเร็จง่ายขึ้น เครื่องปรุงรสเองก็มีชนิดคลีนเช่นกัน เช่น “ผงปรุงรสจากผัก CARECHOICE” ที่เป็นผงปรุงรสที่ทำจากผัก 100% ไม่มีผงชูรส, สารกันเสีย, สารแต่งกลิ่น และสารเคมี จึงเข้า concept ทั้งคลีน ทั้งอร่อย และช่วยให้สุขภาพดีในระยะยาวด้วยค่ะ
Cr. science