อย่างที่เราทราบกันดีกว่าระหว่างการเข้าคอร์สคีโต สารอาหารและโภชนาการหลักของมื้ออาหารจะต้องมาจากไขมันดีและโปรตีน ส่วนคาร์โบไฮเดรตรวมถึงน้ำตาลนั้นเป็นส่วนน้อยมากๆที่เราสามารถทานได้ ดังนั้นการปรุงรสอาหาร โดยเฉพาะปรุงรสหวาน จึงต้องปรุงอย่างระมัดระวัง และต้องอ่านฉลากโภชนาการอย่างถี่ถ้วน
เครื่องปรุงรส ของเผ่าคีโตไม่ควรจะมีน้ำตาลเป็นส่วนผสม เพราะน้ำตาลจะไปกระตุ้นให้ฮอร์โมนอินซูลินหลั่ง และเป็นสาเหตุให้ร่างกายเข้าสู่ภาวะคีโตซิสช้า ดังนั้น ความหวานในมื้ออาหารจะต้องเปลี่ยนจากน้ำตาลทรายเป็นวัตถุดิบธรรมชาติที่ให้รสหวาน หรือสารให้ความหวานทดแทนน้ำตาล เช่น หญ้าหวานหรือน้ำตาลอิริทริทอล ซอสที่มีน้ำตาลเป็นส่วนประกอบก็ต้องหลีกเลี่ยงเช่นกัน เช่น ซอสพริก, ซอสมะเขือเทศ, น้ำสลัด, ซอสบาบีคิว, น้ำจิ้มสุกี้, น้ำมันหอย, ซีอิ๊วขาว รวมถึงผงชูรสด้วย อ่านถึงตรงนี้แล้วบางคนคงถอดใจว่า แล้วยังเหลืออะไรที่ใช้ปรุงได้อีก หรือถ้าจะให้ปรุงแค่เกลือและพริกไทยก็คงไม่ไหว คงเบื่ออาหารและเลิกกินคีโตเร็วแน่นอน
ทริคในเลือก เครื่องปรุงรส อาหารให้เข้ากับมื้อคีโตของเราได้ เราจะต้องเลือกวัตถุดิบที่ให้รสชาติชัดเจน, มีกลิ่นรสเด่นเป็นเอกลักษณ์เพื่อทำให้อาหารไม่จืดชืด เช่น เครื่องเทศจำพวก พริกไทย, กระเทียม, รากผักชี, มัสตาร์ด, ผงกระหรี่, ผงหัวหอม เป็นต้น เครื่องเทศเหล่านี้จะทำให้อาหารมีรสชาติขึ้นมาแบบไม่ต้องพึ่งซอสปรุงรสมาก หรืออาจเลือกวัตถุดิบที่มีความหวานในตัว เช่น ฟักเขียว, เห็ด, มะเขือยาว, กะหล่ำดอก, หัวหอม, หน่อไม้ฝรั่ง หรือกะหล่ำปลี มาปรุงอาหาร
ในท้องตลาดปัจจุบันเริ่มมีหลายแบรนด์ที่ทำซอสปรุงรสสูตรคีโตวางจำหน่ายแล้ว ไม่ว่าจะเป็นซอสพริก,น้ำจิ้มไก่, น้ำจิ้มสุกี้หรือซีอิ๊วขาว ซึ่งทำให้เราสามารถปรุงอาหารคีโตได้อร่อยและง่ายมากขึ้น แต่บางครั้งซอสปรุงรสคีโตเหล่านี้อาจเติมแต่งสารเคมี หรือใช้สารทดแทนความหวานสังเคราะห์ในเครื่องปรุงรสเหล่านี้ จึงอาจเป็นช้อยส์ที่ทำให้อาหารของเราไม่เฮลตี้ 100%
แต่ปัจจุบันเรามีผงปรุงรสจากผัก มาเป็นอีกตัวช่วยสำหรับการปรุงมื้ออาหารคีโตที่จะทำให้เราปรุงอาหารได้แบบไม่ต้องกลัวน้ำตาลเกิน “ผงปรุงรสผัก Care choice” เป็นผงปรุงรสที่ทำจากผัก 100% ไม่มีผงชูรส, สารกันเสีย, สารแต่งกลิ่น และสารเคมีใดๆ จึงทำให้อาหารมื้อนี้นอกจากจะเป็นเมนูคีโต 100% แล้วยังเป็นเมนูที่เฮลตี้ปลอดสารเคมีทำร้ายร่างกายอีกด้วย